
ตอนที่ ๑ ป้า...คิดไปเป็นชาวเกาะ
เรื่องราวความรัก ของป้า มันเกิดขึ้นมานาน นานมาก.... จนป้าอยากจะขึ้นต้นว่า
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ......เหมือนตอนป้าเด็ก ๆ ก่อนจะเข้านอน แม่จะเล่านิทานให้ฟัง แม่มักจะขึ้นต้นด้วยคำนี้เสมอแต่ก็กลัวว่าท่านผู้อ่าน ที่อุตส่าห์เสียเวลาอันมีค่ามาอ่านนิยายเรื่องนี้จะเบื่อนะสิค่ะ ......เอาเป็นว่า มันนานก็แล้วกัน
เริ่มเลยนะ......
เรื่องมีอยู่ว่า ป้าหมูเคยทำงานเป็นเลขานุการ ของกรรมการผู้จัดการบริษัทใหญ่โต มีความเชื่อมั่นในตัวเอง สุด ๆ คือ เราสวย เราเก่ง เราสามารถ แถมพกพาความเท่ห์ มีเสน่ห์ต่อผู้พบเห็น (ทั้งหมดนี้ป้าหมู คิดเอาเองทั้งเพ)แถมหยิ่งผยอง ในความเก่ง และความสำเร็จในงานที่ตัวเองทำ .....
อยู่มาวันหนึ่ง.... ป้าก็อกหักรักคุด จากลูกชายนายพลคนโก้ เลยต้องระเห็ดตัวเอง ออกมาเป็นชาวเกาะ คือ เกาะคนอื่นเค้า พูดกันง่าย ๆ สั้น ๆ เลยคือ ตกงาน ก็เพราะความ เจ้าคิดเจ้าแค้นไม่ยอมทน และไม่อยากอยู่มองหน้าผู้ชายคนนั้นอีกต่อไป ...ป้าคิดสั้น ๆ แค่ว่า อิฉันจะไม่ยอมทำงานร่วมกับคนใจดำ เหมือนอีกาอย่างเธอ
สู้ยอมลาออกจากงานที่แสนจะรัก และยอมทิ้งเงินเดือนตัวเลขหลายหลัก.... แล้วออกมาหางานทำแห่งใหม่ยังจะดีซะกว่า
ด้วยความคิดเพียงว่า เราเก่ง เราสามารถ นั่นเอง บริษัทไหน ๆ ก็อยากรับเข้าทำงานน่ะสิ ..... ป้าล่ะอยากหัวเราะให้ฟันหักจริง ๆ
เพราะ มันไม่เป็นอย่างที่ป้านึกเอาซะเล้ย ....รองเท้าบาจา ที่เค้าว่าทนทานนักหนา ป้าก็ใส่มันจนสึกไปก็หลายต่อหลายคู่ งานก็ยังหาไม่ได้ มันเศร้าหัวใจ ดวงน้อยๆ ของป้าหมูซะนี่กะไร ....
เอ๊า....เป็นไงก็เป็นกัน ป้าเลยตัดสินใจว่า จะไปตายเอาดาบหน้า ยอมแบกหน้า กลับบ้านเราดีกว่า ไม่อยู่แล้วหนาเมืองกรุง......
และในที่สุด ป้าก็เจอทางออกสุดท้าย... ยอมเปลี่ยนตัวเอง จากสาวมั่น มาเป็นสาวชาวเกาะแทน คือเกาะ พ่อ แม่ พี่น้องนะสิค่ะ
ฮา ฮา ขำในความงี่เง้า ของป้าหมู สุด ๆ ใช่มั้ยล่ะ ?
น้องๆ หนู ๆ ที่เข้ามาอ่าน..... ผู้ปกครอง กรุณาให้คำชี้แนะด้วยว่า อย่าทำอย่างป้าหมู เป็นอันขาด ให้คิดก่อนทำเสมอ เพราะว่า..... เราไม่ได้เก่งอยู่คนเดียว และ งาน ก็คือ เงิน ..... ไม่มีงานเราก็ไม่มีเงิน .....
ผลจากการกระทำของป้าในครั้งนั้น มันได้แค่ความสะใจเท่านั้น และที่สำคัญ ความสะใจมันช่วยอะไรไม่ได้เลยจริง ๆ นะ
กรรม กรรม ของป้าหมู แต่ก็ดีนะ หากไม่มีการตัดสินใจของป้าในวันนั้น ไฉนเลยจะมีลุงหนวด... พระเอกหน้าหยก ของป้าได้ล่ะ .......
ตอนที่ ๒ กลับเมืองกรุงดีกว่าเรา
ชีวิต หนอชีวิต กลับมาเป็นชาวเกาะอยู่ได้ไม่นาน ป้าก็คิดได้ว่า มันคงเป็นทางออกที่ไม่เหมาะกับตัวเองสักหน่อย.... จะว่าไปแล้วมีความสุขที่สุด เหมือนเรากลับไปเป็นเด็กเล็ก ๆ ให้พ่อ แม่หาเลี้ยง คิดไปคิดมาลองเสี่ยงโชคเข้าเมืองกรุงอีกสักครั้งจะเป็นไร.....
ว่า แล้ว ป้าก็ไม่รอช้าเดินหน้าเข้ากรุง มุ่งหางานอีกพักใหญ่ ๆ โอ้... พระเจ้าช่วย มีโครงการบัณฑิตอาสากำลังเปิดรับ บัณฑิตตกงานอย่างป้าอยู่นะสิ ไม่รอแล้ว ป้าลงชิงชัยสมัครกับเค้า...ด้วยความหวังว่า จะเป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงนับหมื่นคน ...
ในที่สุดป้าก็ทำสำเร็จ ได้ทำงานสำคัญของชาติ...ได้รับใช้ชาติไงล่ะ
อ๊ะ...อ๊า ..อย่าเพิ่งคิดว่าป้าจะไปออกรบชายแดนเข้าล่ะ เป็นเรื่องเลยนะจะบอกให้....
ป้ามาทำงานเป็นบัณฑิตอาสา เผยแพร่รัฐธรรมนูญ ตามกฏหมายใหม่ ต่างหากเล่า พอป้าได้เข้าทำงาน ความรู้สึกต้อยต่ำในวาสนา ก็หมดไป... เมื่อมีงาน ป้าก็มีเงิน และที่สำคัญมีความภาคภูมิใจกว่าการไปเป็นชาวเกาะเป็นไหน ๆ
ป้าได้รู้จักผู้คนมากมาย ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อนในชีวิต
มาด สาวมั่น กลับมาหาป้าอีกครั้ง ป้าได้ออกทีวี หลายช่อง (แค่ผ่าน ๆ หน้ากล้องน่ะ) อย่า ..อย่า เพิ่งเข้าใจว่ามันเป็นเพราะความสวยของป้าเข้าเชียว มันเป็นเพราะงานที่ป้าทำต่างหากเล่า.....
เพื่อนร่วมงาน แต่ละคนล้วนแล้วแต่ น่ารัก น่าคบ น่ารู้จักไปซะหมด รวมไปถึงเพื่อนรุ่นพี่ คนหนึ่ง ที่ป้าเคารพรักเธอมาก มาแนะนำความทันสมัยของโลกไซเบอร์ให้กับป้า .....
ความแปลกใหม่ที่ป้า ไม่เคยรู้จักมาก่อน มันคือ โลกของ อินเตอร์เนต เพื่อนเค้าสอนให้ป้าใช้มัน และจุดนี้ นี่เองที่ป้าได้เริ่มต้น สร้างนิยายรักฉบับใหม่ ยังไงล่ะ ......
ตอนที่ ๓ พรหมลิขิต
คุณ ๆ เชื่อในพรหมลิขิตมั้ย ? ป้าล่ะเชื่อ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์เลยล่ะจ๊ะ เพราะมันเกิดขึ้นกะป้าเห็น ๆ
พอ ป้าเริ่มท่องไปในโลกไซเบอร์ ป้าก็ได้มาเจอกะลุงหนวด ผู้แสนดีคนนี้ยังไงล่ะ ลุงเป็นคนไม่ค่อยพูด สุภาพ และหล่อในสายตาของป้าหมู (ลุงอ่านภาษาไทยออกล่ะคงขำกลิ้งไปเลย)
เราติดต่อกันมาเรื่อยๆ แต่ป้าคิดเสมอว่า ... ยาก... ไม่มีรักแท้ ในโลกของอินเตอร์เนตหรอก อย่ามาหลอกฉันเลยพ่อคุณ ....
เรา ติดต่อกันนาน หลายปี...ป้ากะลุง ไม่เคยเห็นตัวเป็น ๆ ของกันและกันเลย มีแต่จดหมายจากไปรษณีย์อิเลคทรอนิค และเสียงของลุงที่ โทรข้ามทวีป มาราตรีสวัสดิ์ ป้าหมูก่อนนอนทุกคืน เท่านั้นเอง ...
เพื่อนของป้าบางคนบอกว่า น้ำเน่า... ไม่มีวันที่เธอจะได้เจอกันจริงๆ แน่นอน
ก็บอกแล้วไง ...ว่าพรหมลิขิต ...
ในที่สุดฝันของป้าก็เป็นจริง ลุงบอกว่าจะมาเยี่ยมป้าในหน้าร้อนนี้ ป้าล่ะดีใจสุด ๆ จะได้เห็นหน้าลุงจัง ๆ ก็คราวนี้แหละ
ป้า เฝ้านับวันนับคืน ให้มาถึงเร็ว ๆ อยากเห็นนัก คนที่โทรมาก่อนนอนทุกคืน คนที่เป็นนาฬิกาบอกเวลาปลุกป้า ด้วยข้อความทางโทรศัพท์ทุกวัน จะเป็นยังไงนะ ....
แล้วเจอกันนะจ๊ะ ลุงหนวดสุดที่รักของป้า ......
ตอนที่ ๔ รักข้ามขอบฟ้า
และแล้ว... วันที่ป้ารอคอยก็มาถึง ป้าได้เจอตัวจริงของผู้ชายที่แสนดี ป้าขอเรียกว่า ลุงหนวด
ลุงเป็นผู้ชายที่น่ารัก สุภาพ ป้าบอกได้เลยว่า ป้าไม่เสียดายเวลา ที่รอคอยลุงมาถึง ๓ ปี
ป้าคิดเสมอว่า เป็นการรอแบบ ลม ๆ แล้ง ๆ คงเป็นไปไม่ได้....
แต่กลับตรงกันข้าม.....ลุงบอกป้าว่า ... ป้านี่แหละคือคนที่ลุงรอคอยที่จะพบ ....และต้องมาพบ ...มารักกัน
ในที่สุดป้าก็เจอ รักแท้ เข้าจนได้
ป้าเคยร้องเพลง รักข้ามขอบฟ้า อยู่บ่อย ๆ แต่ไม่เคยนึก ไม่เคยคิดว่า ความรักของป้า มันจะเหมือนในมิวสิควิดีโอ ที่ป้าเคยดูน่ะสิ
ว๊าว ... เพลงซึ้ง ๆ กินใจ ประทับใจป้าหมู กะลุงหนวดนักหนา
เพลงรักข้ามขอบฟ้า คงเป็นเพลง ประจำตัวป้าไปซะแล้วล่ะ ....
ลั๊น...ลัน ...ล๊า.... ขอบฟ้าเหนืออาณาใดกั้น ใช่รักจะดั้นยากกว่านกโบยบิน ......
ป้า นึกถึงเพลง รักข้ามขอบฟ้าอยู่ในใจ ..... มารู้สึกตัวอีกครั้ง ก็ตอนที่ลุง ยื่นดอกไม้ช่อใหญ่ แล้วนั่งคุกเข่า จับมือป้าแน่น และบอกว่า.......
ที่รัก.... เธอเหนื่อยมามากแล้ว ขอให้ฉันได้ดูแลเธอตลอดไปเถอะนะ
ป้าไม่รอช้า ตอบ ตกลง ลุงไปทั้งน้ำตา ....
ตอนที่ ๕ ฉันจะบิน
ในที่สุดป้าก็ตัดสินใจว่า...จะไปใช้ชีวิตกับลุงที่เมืองยุโรป เพราะป้าได้เจอรักที่งดงาม และมีความสุขที่สุด...
คน เราน่ะจะเอาอะไรมากมายกับชีวิต ..คุณ ๆ คิดอย่างป้ามั้ย ...หากเราเจอคนที่เรารักและเค้าก็รักเรา.... จะมามัวนั่งมองตากัน อย่างนั้นน่ะเหรอ....สู้ตัดสินใจไปอยู่ด้วยกันให้มันรู้แล้วรู้รอดไป ...ใครคิดเหมือนป้า ขอมือขวาหน่อย ....
อ๊ะ....อ๊ะ ...มันไม่ง่ายอย่างที่เรานึกเราคิดหรอกนะ ทุกเรื่องต้องผ่านกระบวนการร้อยแปดมากมาย ...ไหนจะต้องผ่านผู้ใหญ่ฝ่ายเรา ฝ่ายเขาอีกล่ะ แหมยุ่งเป็นบ้า...
แล้วป้าหมู สาวมั่นคนนี้จะบอก คนในครอบครัวยังไงดี เพราะการตัดสินใจครั้งนี้ มันยิ่งใหญ่นัก เราต้องห่างครอบครัว พ่อ แม่ พี่น้อง ห่างคนที่เรารัก ห่างเพื่อนที่แสนดี และ จากแผ่นดินที่เราเกิด ..... บินไป อีกฝั่งขอบฟ้าโน้นเชียว....
ยิ่งคิดก็ยิ่งหมดหนทาง ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง...
และ แล้ว...ป้าก็ตัดสินใจ บอกทุกคนไปอย่างมั่นใจว่า .....เราตัดสินใจที่จะไปใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันที่เมืองยุโรป เพราะป้าถือว่า รักจริงเป็นสิ่งไม่ตาย สุภาษิตของใคร ป้าก็ไม่รู้เหมือนกัน....
กว่า จะเอ่ยปากบอกออกไปได้ ....หัวใจทั้งดวงก็เต็นไม่เป็นส่ำ รอฟังคำตอบรับ จากครอบครัวด้วยความกลัว ..กลัวว่า ..ทุกคนจะต่อต้าน กลัวไปสารพัด ...
ความ เอ๋ย ...ความรัก... ใคร ๆ ก็ทำทุกอย่างได้เพราะคำว่า รัก..... ป้าก็เช่นกัน ภาวนาให้ทุกคนในครอบครัวเข้าใจในตัวของเราสองคน ... ที่สำคัญ พ่อแม่ ของป้าหมู ..ท่านต้องเข้าใจ ...และเต็มใจในการตัดสินใจในครั้งนี้.....
ก็บอกแล้วว่า พรหมลิขิต ? ขีดเส้นให้เราเป็นคู่กัน ทุกอย่างจึงผ่านไปได้ด้วยดี ..พ่อของป้าหมู บอกกับลุงเน้น ๆ สั้น ๆ ได้ใจความว่า......
" ขอให้รักป้าให้มาก เพราะคุณได้เอาหัวใจของครอบครัวเราไป ...จะต้องรัก และดูแล ให้เหมือนหัวใจของคุณเอง "
ป้า คิดในใจว่า .....ความรักของป้า กับลุง มาถึงจุดสุดท้าย เหมือนในละคร เรื่องฮิตติดจอแล้วนะสิ .... คือ นางเอก พระเอก ได้รักกัน ได้แต่งงานกัน ละครก็จบ .....
แต่ในชีวิตจริงของเรานั้น การแต่งงาน คือ การเริ่มต้นของการสร้างครอบครัว เท่านั้นเอง ......